Hi-Balanz Vivid X-TRA Plus L-Carnitine
ในร่างกายมนุษย์เมื่อเราอดอาหารร่างกายจะคิดว่า เรากำลังจะอดตาย กลไกทางธรรมชาติในร่างกายก็จะรีบเปลี่ยน น้ำตาล และ คาร์โบไฮเดรตเป็นไขมันเร็วขึ้น(เพื่อใช้เป็นพลังงานสะสม เพราะไขมันให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนถึง 2 เท่า) พร้อมกับ ลดอัตราการเผาผลาญพลังงาน (Metabolism - เมตาบอลิ ซึ่ม) ในร่างกายลง ในช่วงแรกของ การอดอาหารน้ำหนักจะลด แต่ส่วนที่ลดจะเป็นน้ำและมวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ไม่ใช่ไขมันสะสม เนื่องจากการใช้พลังงานเท่าเดิม แต่ร่างกายได้รับอาหารน้อยลง ทำให้ไขมันยังเท่าเดิม
การอดอาหารตลอดปีเพื่อลดความอ้วนเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก หลังจากอดอาหารมาสักระยะ อัตราการเผาผลาญพลังงาน (Metabolism) จะลดลง การอดอาหารติดต่อกันนาน 12 ชั่วโมง อัตราการเผาผลาญจะลดลงถึง40% การกลับมาทานอาหารเหมือนเดิมอีกครั้ง จึงทำให้ อ้วนมากกว่าเดิม เช่น ถ้าทานข้าว 1 จาน ร่างกายจะเผาผลาญน้อยลง ส่วนที่ไม่ได้เผาผลาญจะเก็บไว้เป็นพลังงานสะสม (ไกลโคเจน) หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นไขมันสะสม
การอดอาหารติดต่อกันนานๆให้ผลเช่นเดียวกับการ กินยาลดความอ้วน ซึ่งยาลดความอ้วนจะทำให้รู้สึก ใจสั่น คอแห้ง หิวน้ำ นอนไม่ค่อยหลับ หงุดหงิดง่าย หูแว่ว ประสาทสัมผัสเริ่มผิดเพี้ยน รับ ประทานอาหารได้น้อยลง หรือไม่หิวเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทานอะไรเลยก็ตาม หลังจากหยุดยาลดความอ้วน ระบบประสาทสั่งการเรื่องความหิวที่ถูกกดไว้มานานถูกปลดปล่อย พร้อมกับสูญเสียการควบคุมตัวเองเมื่อเห็นอาหารที่น่ารับประทาน การทานในปริมาณเพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้อ้วนได้แล้ว เพราะระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายถูกทำให้ถดถอยจนอยู่ในระต่ำที่สุด เนื่องจากอดอาหารมานาน
การออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกิน
หากเราต้องการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน จะต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิค (Aerobic), คาร์ดิโอ (Cardio) เช่น การ วิ่ง,ว่ายน้ำ,ปั่นจักรยาน ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาที ขึ้นไป เพราะในนาทีที่ 1-25 ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานสะสมที่กล้ามเนื้อและตับ (ไกลโคเจน) หลังจากนาทีที่ 25 ร่างกายจะเริ่มนำไขมันมาเผาผลาญ การออกกำลังกายวันละ 10-15 นาที ไม่ช่วยเผาผลาญไขมัน หลายคนจึงเกิดการท้อแท้ เพราะออกกำลังกายไม่ถึง 30 นาที แล้วกลับไปรับประทานอาหารอย่างเต็มที่ โดยคิดว่าได้ลดไขมันไปบ้างแล้ว
คาร์ดิโอ Cardio คืออะไร
การออกกำลังกายเพื่อลดไขมันอย่างได้ผล การที่ร่างกายจะดึงไขมันมาเผาผลาญจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนช่วยในการเผาผลาญ เวลาเหายใจเข้าหัวใจก็มีหน้าที่สูบฉีดและส่งเลือดที่เป็นตัวนำออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆในร่างกายเพื่อเผาผลาญไขมัน
คาร์ดิโอ Cardio คำนวณได้โดยใช้สูตร 220 - อายุ (ปี) = อัตราการเต้นหัวใจ (Heart Rate) ต่อนาทีสูงสุดที่ร่างกายรับได้
1. Low Intensity -คาร์ดิโอแบบความเข้มข้มต่ำ โดย Target Heart Rate (THR) อยู่ ที่ 55% - 65% ตลอดระยะเวลาการออกกำลังกาย
2. Medium Intensity - คาร์ดิโอแบบความเข้มข้นปานกลาง โดย THR อยู่ที่ 65% - 75% ตลอดระยะเวลาของการออกกำลังกาย
3. High Intensity - คาร์ดิโอแบบความเข้มข้นสูง โดย THR อยู่ที่ 75% - 85% ตลอดระยะเวลาการออก กำลังกาย
4. Extra High Intensity – คาร์ดิโอแบบความเข้มข้นสูงที่ใช้เทคนิคการฝึก แบบพิเศษเข้าช่วย THR อยู่เหนือระดับ 85% ขึ้นเป็นช่วงๆ โดยทั่วไปจะให้ THR อยู่ ที่ 90% - 95% หรือมากกว่าจนเฉียด 100% ของ Maximum Heart Rate คาร์ดิโอชนิดพิเศษพวกนี้ทำได้ยากมาก เลยส่งผลให้สามารถทำได้ในระยะเวลาที่สั้นมากๆ คือตั้งแต่แค่ 4 - 15 นาทีเท่านั้น ไม่อย่างนั้นร่างกายจะรับสภาพความรุนแรงไม่ไหว
Hi-Balanz Tips
· การลดไขมันไม่เหมือนกับการลดน้ำหนัก ดังนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องชั่งน้ำหนักทุกๆวัน
· การลดเฉพาะไขมันเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5 Kg./สัปดาห์
· การขับถ่ายบ่อยๆ ทำให้สูญเสียน้ำในร่างกาย และจะกลับมาใหม่เมื่อคุณดื่มน้ำ
· การควบคุมน้ำหนัก ต้องลดเฉพาะส่วนที่เป็นไขมันเท่านั้น
· น้ำหนักที่ลดลงเร็วส่วนใหญ่จะเป็นน้ำกับมวลกล้ามเนื้อใน ร่างกาย ไม่มีผลต่อการลดไขมัน
· รับประทานอาหารให้น้อยกว่า พลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน
· การรับประทานอาหารมื้อเล็กๆ 4-5 ครั้ง/วัน จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น
· ในขณะที่ออกกำลังกายแบบแอโรบิค (Aerobic) นานกว่า 30 นาที ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญไขมัน แต่ถ้าเราดื่มน้ำหวานร่างกายก็จะไปเผาผลาญกลูโคสแทน ในกรณีเดียวกันถ้าเราหยุดพักนานกว่า 4 นาที ร่างกายก็จะกลับไปเผาผลาญพลังงานสะสมแทน
· กล้ามเนื้อจะช่วยเผาผลาญพลังงาน แม้ในขณะที่เรานั่งอยู่เฉยๆ หรือนอนหลับ
· ลดไขมันตั้งแต่นาทีแรกที่ออกกำลังกาย (รับประทานก่อนออกกำลังกาย 30 นาที) ปริมาณการเผาผลาญขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำหลังทาน เช่น ทานแล้วเข้านอนก็จะเผาผลาญน้อยกว่าการไปเดิน หรือไปแอโรบิค
· ลดไขมันส่วนเกินทั่วร่างกาย โดยไม่สูญเสียน้ำและมวลกล้ามเนื้อ ไม่ทำให้เกิด Yo-Yo effect
· กระชับรูปร่าง, กระชับสัดส่วน, กระชับกล้ามเนื้อ, ลดหน้าท้อง, ลดพุง, ลดต้นแขน, ลดต้นขา, ลดเอว, ลดสัดส่วน
· ป้องกันอนุมูลอิสระที่เกิดจากการออกกำลังกาย บำรุงผิวพรรณ ลดการเสื่อมของเซลล์ ชะลอการแก่ก่อนวัย
· ลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ที่เกิดจากไขมันสะสมในหลอดเลือด
· ลดระดับ LDL (Low Density Lipoprotein) และเพิ่มคอลเรสเตอรอลชนิดดี HDL (High Density Lipoprotein)
· ทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) อยู่ในระดับต่ำ
· ช่วยลดการสะสมของไขมันในตับ จากการดื่มแอลกอฮอล์
· ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ
· ลดภาวะขาดสารแอล คาร์นิทีน สำหรับคนที่รับประทานมังสวิรัติอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นสารที่ร่างกายได้รับจากเนื้อสัตว์
ส่วนประกอบใน 1 แคปซูล
L-Carnitine (แอลคาร์นิทีน)
จะช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ในร่างกายมาเผาผลาญในไมโตรคอนเดรีย (Mitochondria ทำ หน้าที่เปรียบเสมือน เตาเผาที่จะช่วยสร้างพลังงานให้กับเซลล์) ทำให้เกิดการนำไขมันสะสมไปใช้เป็นพลังงาน กำจัดไขมันส่วนเกินของร่างกาย รวมถึงไขมันสะสมในหลอดเลือด ช่วยเพิ่มคอเรสเตอรอลที่มีประโยชน์ HDL (High Density Lipoprotein) ทำให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ (triglycerides) อยู่ในระดับที่เหมาะสม เหมาะสำหรับใช้ร่วมกับโปรแกรมการออกกำลังกายควบคุมน้ำหนัก กระชับกล้ามเนื้อ
Vitamin B1, B2, B3, B6 (วิตามินบี1, บี2, บี3, บี6)
ประกอบด้วย วิตามินบี 1, 2, 3, และ 6 ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญไขมัน โประตีน และคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการสร้างพลังงาน การ ทำงานของระบบประสาท การสังเคราะห์ฮอร์โมน สารสื่อประสาทและเอนไซม์ในร่างกาย วิตามินบีรวม จำเป็นต่อการเจริญเติบโต การทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อต่อมหมวกไต และเยื่อบุเนื้อเยื่ออ่อน
Calcium Pyruvate (แคลเซียม ไพรูเวท)
มีความสำคัญในกระบวนการสลายน้ำตาลกลูโคส (Glycolysis) เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน และช่วยเพิ่มความสามารถในการส่งผ่านกลูโคสเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อ กระตุ้นการหายใจระดับเซลล์(Cellular Respiration) ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยในกระบวนการยับยั้งการสังเคราะห์ไขมัน ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ L-Carnitine
Coenzyme Q-10 (โคเอนไซม์ คิว-10)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดจากการออกกำลังกาย ลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์ที่กล้ามเนื้อหัวใจ ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ มีบทบาทสำคัญในการบำรุงผิวพรรณ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ป้องกันริ้วรอยและชะลอการแก่ก่อนวัย เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและเป็นตัวร่วมในกระบวนการหายใจ ระดับเซลล์ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นการสร้างโคเอนไซม์ คิว-10 ในร่างกายจะลดลง
Citrus Bioflavonoids (ซีทรัส ไบโอฟลาโวนอยด์)
เป็นสารต้านและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง เพิ่มการดูดซึมและประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซี (Vitamin C) กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพิ่มความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดขนาดเล็ก ป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว
Chromium Picolinate (โครเมียม พิโคลิเนต)
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน เพิ่มการนำกลูโคสในกระแสเลือดไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เพิ่ม HDL (High Density Lipoprotein) และลด LDL (Low Density Lipoprotein) ช่วยไม่ให้คอเลสเตอรอลไปอุดตันในหลอดเลือดเป็นประโยชน์ต่อภาวะโรคหัวใจและหลอด เลือดหรือภาวะความดันโลหิตสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ ดึงเอาไขมันที่สะสมตามเนื้อเยื่อต่างๆ มาเผาผลาญให้เกิดเป็นพลังงานได้
ไฮบาลานซ์ ได้คิดค้นสูตร วีวิด เอ็กซ์ตร้า พลัส แอลคาร์นิทีน ที่ได้เพิ่มสารอาหารที่สอดคล้องกับ
ระบบเผาผลาญในร่างกายและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแอลคาร์นิทีน ทำให้ช่วยเร่งการเผา
ผลาญไขมันได้ดีขึ้น กลุ่มที่ช่วยเผาผลาญมี แอลคาร์นิทีน, แคลเซียม ไพรูเวท, วิตามินบี
1,2,3,6, โคเมี่ยม พิโคลิเนท และสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายนานต่อเนื่องครั้งละ 60 นาที
ขึ้นไป จะเกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากจนร่างกายขับออกไม่ทันทำให้ร่างกายดูโทรม (ร่างกายกระชับ
ขึ้นจริง น้ำหนักลงจริง แต่ผิวเหี่ยว ผิวโทรม) จำเป็นต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระร่วมด้วย กลุ่มที่
ต้านอนุมูลอิสระมี ซีทรัส ไบโอฟลาโวนอยล์ และโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ช่วยขับอนุมูลอิสระจากการออ
กำลังกายนานๆได้ดีขึ้น และผิวไม่โทรม
ปกติใน 1 วันร่างกายเผาผลาญพลังงานประมาณ 2,000 Cal แต่ พลังงานที่เผาผลาญจะเป็นพลังงาน
สะสมที่ตับ (ไกลโคเจน) และพลังงานจากอาหารที่รับประทานไม่มีการนำไขมันมาเผาผลาญ ใน
กรณีที่ทาน ไฮบาลานซ์ วีวิด เอ็กซ์ตร้า พลัส แอลคาร์นิทีน ก่อนอาหารเช้า 1-2 แคปซูลในวันนั้น
ร่างกายจะสามารถดึงไขมันไปใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น
ทานก่อนออกกำลังกาย 15-30 นาที 1-2 แคปซูล ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายแนะนำให้ทานตอนเช้า
ก่อนอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่ม Fat Burn ไม่ควรทานตอนเย็นและก่อนนอน เพราะหลังจากที่
ทานไปร่างกายใช้พลังงานช่วงนั้นน้อย
ใครบ้างที่ทานไฮบาลานซ์ วีวิด เอ็กซ์ตร้า พลัส แอลคาร์นิทีน..?
กลุ่มแรก ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬา, นักวิ่ง, นักปั่นจักรยาน, ผู้ที่เล่นเวท และผู้ที่รักการออกกำลังกาย
ทุกประเภท ทานตอนเช้าก่อนอาหาร 2 แคปซูล และก่อนออกกำลังกายตอนเย็นอีก 2 แคปซูล
กลุ่มที่สอง กลุ่มฟิตเนสหลังเลิกงาน ออกกำลังกายเฉลี่ย 3 ครั้ง/สัปดาห์ ทานก่อนออกกำลังกาย
2 แคปซูล วันไหนที่ไม่ได้ไปฟิตเนสจะทานตอนเช้า 2 แคปซูล
กลุ่มที่สาม ผู้หญิงและผู้ชายวัยทำงาน ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทานก่อนอาหารเช้า 2 แคปซูล
ก่อนไปทำงาน
กลุ่มที่สี่ จะทานเฉพาะก่อนออกกำลังกายครั้งละ 2 แคปซูล วันไหนไม่ได้ออกกำลังกายไม่ทาน
กลุ่มที่ห้า ผู้ที่มีปัญหาเรื่องความอ้วน เคยลองทานผลิตภัณฑ์อื่นแล้วไม่เห็นผล และไม่ได้รับความรู้
ที่ถูกต้องจากผู้ขาย กลุ่มนี้ทานก่อนอาหารเช้า 2 แคปซูล และก่อนอาหารกลางวัน 2 แคปซูล
เนื่องจากไม่นิยมการออกกำลังกาย แต่ต้องการเห็นผลเร็ว
Hi-Balanz vivid จะทำให้เหงื่อออกเร็วและเยอะขึ้นมากกว่าเดิมในเวลาที่ออกกำลังกาย หรือเวลา
ทำกิจกรรมที่ใช้พลังงานเยอะ สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น สำหรับคนที่ออกกำลังกายใช้เวลา
ประมาณ 30-45 วัน น้ำหนักจะลงประมาณ 2-3 kg. สัดส่วนจะกระชับขึ้น เพราะเน้นการเผาผลาญไข
มันส่วนเกิน การที่เอาเฉพาะไขมันออกจากร่างกายเพียง 2-3 Kg.รูป ร่างจะดูเพรียว มีสัดส่วนอย่าง
เห็นได้ชัดและรู้สึกได้ด้วยตัวเอง ในคนที่ไม่ออกกำลังกายจะใช้เวลานานกว่านั้น ควรควบคุมปริมาณ
คาร์โบไฮเดรต และไขมันที่ได้รับจากอาหารในแต่ละวันควบคู่ไปด้วย
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นอาหารเสริม ไม่มีผลในการรักษาโรค
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่เฉพาะบุคคล
|
|
|
|
Original Posted by : Guest
ออกกำลังอยู่ ทานตัวนี้ยิ่งดีเลยค่ะ
จะช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญของคุณให้เพิ่มขึ้น
และเป็นการสลายเฉพาะไขมันจริงๆ ออกจากร่างกาย
เพราะฉะนั้น เมื่อไขมันถูกขับออกไปจากร่างกาย สัดส่วนคุณจะช้ดเจนขึ้ค่ะ
เหมาะมากสำหรับคุณค่ะ